เหล็กไหล คือ ธาตุอย่างหนึ่งที่ปรากฏในบรรยากาศรอบๆ ตัวเรา (อนูมูลทิพย์หรือไอทิพย์) ธาตุเหล่านี้ถูกนำมาควบแน่นหรือกลั่นตัวด้วยกระบวนการพิธีกรรม คือ ต้องใช้ผู้มีพลังจิตรสูง และทรงวิทยานิคม เรียกด้วยวิชา ก็จะไหลยืดย้อยลงมาเสพน้ำผึ้งได้ เชื่อว่าเหล็กไหลมีธาตุขันธ์ มีชีวิต มีจิตวิญญาณ มีบริวานคอยอารักขาหลายชั้น และที่เชื่อว่าโลหะมีชีวิตในทางไสยศาสตร์นั้นก็มีเพียงสองชนิดเท่านั้นก็คือ เหล็กไหลที่ว่านี่ และปรอท ส่วนอีกธาตุหนึ่งที่ถือว่ามีจิตมีชีวิต เเต่ไม่ใช่โลหะก็คือ "แก้ว" หรือเรียกว่า "ธาตุสำเร็จ" โดยทั้งสองสิ่งนั้นเป็นยอดปรารถนาของคนที่เชื่อเรื่องคาถาอาคมว่าหากครอบ ครองสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะเหนือมนุษย์ไม่มีผู้ใดทำอันตรายได้ (แต่ที่เห็นก็ตายลงหลุมเกือบทุกคนเพราะ เป็นกฏธรรมชาติ) การที่ว่ามีชีวิตของ "เหล็กไหล" หรือ "ปรอท" ก็เพราะทั้งสองสิ่งนั้นเคลื่อนที่ไปมาได้เอง (เรียกว่าเดินหน) และมีการเสพบางสิ่งบางอย่างซึ่งปรอทนั้นจะเสพโลหิตและของเน่าเสีย แต่ปรอทบางชนิดจะเสพไอดิน ไอฟ้า และไอตัวจากบุคคลบางประเภทส่วนเหล็กไหลนั้นเชื่อว่า เสพไอหอมของเกษรดอกไม้ โดยจะเสพโดยตรง และบางคณะเชื่อว่าอาจเสพจากดินบางประเภทที่เรียกว่า "ดินกากยายักษ์" ที่เป็นเศษของสมุนไพร โดยมีว่านชนิดหนึ่งที่เป็นของคู่กันหากนำมารวมกันก็จะต่างเพิ่มอำนาจแก่กัน อีกมาก ว่านนี้ก็คือว่านไพรดำ และที่รู้จักกันดีก็คือ "น้ำผึ้ง" และยิ่งเป็นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งหลวงที่ขึ้นบนยอดผาสูงโดดเดี่ยว และหากมีคดผึ้งในรังผึ้งนั้นก็ยิ่งเชื่อว่าจะเสริมอานุภาพให้เหล็กไหลศักดิ์ สิทธิ์เป็นทวีคูณ โดยนักไสยเวทหลายท่านเชื่อว่ามีเหล็กไหลบางประเภทที่บ่มตัวสามารถเสพไอดินไอ ฟ้า และง้วนผึ้งก็จะมีอำนาจมากจนอาคมไม่สามารถผูกอยู่ได้เเต่อย่างใดต้องเชิญ ด้วยจิตเท่านั้น ลักษณะของเหล็กไหลนั้นเทียบเคียงกับธาตุวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่าทอร์เรียม(Thorium)
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ