วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

วิธีการหาเหล็กไหล

วิธีการหาเหล็กไหล

การที่จะรู้ได้ว่าสถานที่แห่งใด ถ้ำหรือภูเขาใดเป็นสถานที่ ที่มีธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลอยู่นั้น นอกจากจะสามารถสังเกตได้ จากลักษณะของถ้ำตามที่ได้กล่าวถึงในข้างต้นไปแล้วนั้น ยังมีข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือถ้ำที่มีเหล็กไหลอยู่นั้นจะพบว่ามี ขุยดินหรือขุยเหล็กอันเกิดจากการเคลื่อนตัวของเหล็กไหลตก อยู่ตามบริเวณพื้นถ้ำโดยรอบ ขุยดินหรือขุยเหล็กที่ว่านี้จะมี ลักษณะเป็นเม็ดกลมมนสีดำๆ มีเนื้อคล้ายโลหะหรือมีลักษณะ เป็นขุยผงสีดำๆ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ขี้ดิบเหล็กไหล" ซึ่งขี้ดิบเหล็กไหลยังถือว่าเป็นของขลังอีกอย่างหนึ่งด้วย

หากขี้ดิบเหล็กไหลยังอยู่ในสภาพใหม่ๆ แสดงว่าตัวเหล็กไหล ยังคงอยู่ในบริเวณนั้น แต่ถ้าสังเกตเห็นขี้ดิบเหล็กไหลมีลักษณะเก่า แสดงว่าบริเวณนั้นเคยมีเหล็กไหลมาอาศัยหลบซ่อนตัวอยู่แต่ว่า ได้ย้ายจากไปแล้ว อย่าได้เสียเวลาเฝ้าสังเกตขี้ดิบเหล็กไหลเก่า เพราะเหล็กไหลน้ำหนึ่ง(ประเภทเหล็กไหลปีกแมลงทับ) เมื่อย้ายที่อยู่แล้วจะไม่ย้อนกลับมาอยู่ในสถานที่เดิมอีก

ขี้ดิบเหล็กไหลที่กองอยู่บริเวณพื้นถ้ำนั้นสันนิษฐานได้ว่าเกิด ขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเหล็กไหลขณะที่เข้า-ออกจากรัง แล้ว รังสีจากเหล็กไหลไปทำปฏิกิริยากับหินในบริเวณนั้นจนเกิดเป็นขุย เหล็กไหลหรือขี้เหล็กไหลร่วงลงมาแล้วทับถมกันเป็นเวลานาน. ดังนั้นบริเวณที่พบกองขี้ดิบเหล็กไหลตกอยู่จึงค่อนข้างมีโอกาส ที่จะพบว่ามีเหล็กไหลอยู่

ในการจะหาเหล็กไหลชั้นดีหรือเหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่ง ได้จะต้องสังเกตขี้ดิบเหล็กไหลให้เป็นเสียก่อน โดยต้องสามารถ แยกให้ออกว่าเป็นขี้ดิบของเหล็กไหลประเภทไหน และเป็นขี้ดิบ เหล็กไหลใหม่หรือเก่า เพราะถ้าเป็นขี้ดิบเหล็กไหลเก่าแล้วหากทำ พิธีเรียกไปก็เสียเวลาเปล่า เนื่องจากตัวเหล็กไหลย่อมไม่ได้อยู่ใน บริเวณนั้นแล้ว ในการเรียกเหล็กไหลจึงต้องสังเกตขี้ดิบเหล็กไหล ให้เป็นเสียก่อน โดยเลือกเอาเฉพาะขี้ดิบเหล็กไหลที่ยังใหม่อยู่ และจะต้องเป็นขี้ดิบเหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่งเท่านั้น

การหาเหล็กไหลอีกวิธีหนึ่งสามารถทำได้โดยการสังเกตว่า ในวันที่พระจันทร์เต็มดวงหรือคืนวันเพ็ญจะมีเหล็กไหลบางชนิดออกมาจากรังเพื่ออาบแสงจันทร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นบริเวณที่ราบ เชิงเขาที่มีลำธารไหลผ่านและบริเวณนั้นจะต้องมีลักษณะเป็นหินกรวดก้อนเล็กๆ คล้ายเม็ดทราย เมื่อดวงจันทร์เดินทางเข้าใกล้โลก มากที่สุดแร่เหล็กไหลจะผุดตัวเองขึ้นมาเล่นแสงจันทร์เหมือนหอยหลอดที่ผุดขึ้นมาจากพื้นทราย และเหล็กไหลที่มีอานุภาพมาก ๆ จะเปล่งแสงเป็นดวงไฟออกมาเล่นกับแสงจันทร์ ดังนั้นในบริเวณที่มีแสงดังกล่าวจึงอาจจะพบรังเหล็กไหลอันเป็นเหล็กไหลชั้นรองได้ นักเล่นแร่แปรธาตุในสมัยโบราณมักนิยมหาเหล็กไหลตามธรรมชาติ กันด้วยวิธีการนี้ เพราะไม่ต้องมีพิธีกรรมให้ยุ่งยาก เพียงแค่เฝ้า คอยสังเกตให้ถูกที่และถูกเวลาเท่านั้นก็จะสามารถได้ธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลมาแต่โดยง่าย

ผู้ที่มีวิชาและรู้เคล็ดลับของธรรมชาติจึงมักจะไปคอยดักเก็บ เหล็กไหลประเภทนี้ ในต่างประเทศก็มีปรากฏการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น ในหลายแห่งทั่วโลก ดังที่ได้เคยแพร่ภาพในสารคดีของต่างประเทศ ที่ช่างภาพได้ไปเฝ้าบันทึกภาพแร่เหล็กไหลผุดขึ้นจากดินในคืนวัน พระจันทร์เต็มดวงเช่นกัน แต่ปรากฏว่านักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวถึง ปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ว่าเกิดจากอำนาจแรงดึงดูดของดวงจันทร์ ที่มีผลต่อโลกจึงส่งแรงดึงดูดนั้นไปยังแร่ธาตุบางชนิดที่ฝังตัวอยู่ใต้ ผิวดินและเป็นผลให้แร่ใต้ดินผุดตัวขึ้นมาบนดินได้

ผู้ที่รู้แหล่งของแร่เหล็กไหลประเภทนี้มักไปดักรอเก็บ เหล็กไหลที่ผุดตัวขึ้นมาจากดิน ว่ากันว่าเหล็กไหลประเภทนี้ มีอานุภาพพอสมควร ถึงแม้จะไม่ใช่เหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่ง ที่หายากที่สุด แต่ก็จัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ของเหล็กไหลอันเป็น วัตถุธาตุที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกธาตุ เพราะการที่เหล็กไหลได้ผุดตัวขึ้นมาเองนี้ก็ถึอได้ว่าเป็นการแสดงอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ จนอาจกล่าวได้ว่าเหล็กไหลที่ผุดตัวขึ้นมาจากพื้นดินเมื่อได้กระทบกับแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญย่อมถือเป็นวัตถุธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 สิงหาคม 2556 เวลา 18:31

    งงตอนที่หาตามพื้นมันจะเห็นได้อย่างไร

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ6 ตุลาคม 2556 เวลา 11:10

    อาจจะมีแสงวาบขึ้นมากอนก้อได้นะคะ

    ตอบลบ