เหล็กไหลกับพลังอำนาจอันเร้นลับ |
เราจึงมักได้ยินเรื่องเล่าที่ว่าเวลานายพรานเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ แต่เมื่อไปถึงบริเวณที่มีกายสิทธิ์เหล็กไหลแฝงตัวอยู่ เช่น บริเวณปากถ้ำ
หรือเงื้อมผาเมื่อนายพรานยกปืนขึ้นเล็งสัตว์ป่าแถบนั้นมักปรากฏว่าปืน ยิงไม่ออกบ้าง กระสุนด้านบ้าง หรือบางครั้งอาจมีอาถรรพณ์ถึงขั้น กระบอกปีนร้าวหรือแตกขึ้นมาได้
ความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งเหล็กไหลนั้น แม้จะเป็นเพียงน้ำที่ไหลผ่านองค์เหล็กไหลก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพในทาง คงกระพัน แคล้วคลาด ดังเช่นน้ำในลำธารหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ไหลผ่านตัวเหล็กไหลหรือรังเหล็กไหลไม่ว่าจะเป็นเหล็กไหล ชนิดที่ดีที่สุดหรือชนิดรองๆลงไปก็ตามยังส่งผลให้น้ำที่ไหลผ่าน แร่เหล็กไหลนั้นกลายเป็นน้ำวิเศษที่สัตว์ตัวใดก็ตามหากได้ดื่มกินน้ำนั้นเข้าไปจะบังเกิดอำนาจความคงกระพันขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ นอกจากนั้นยังสามารถรักษาบาดแผลหรือความเจ็บไข้ได้ป่วยให้แก่ สัตว์ป่าตัวนั้นได้ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นแม้ผู้ที่สวมเหล็กไหลไม่ว่าจะเป็นเหล็กไหล น้ำหนึ่ง รังเหล็กไหล และโคตรเหล็กไหล อันเป็นเหล็กไหลชั้นรองๆ ลงไปก็ตาม แต่หากได้ส่วมใส่คล้องเหล็กไหลไว้กับตัวแล้วออกไปล่าสัตว์ ยิงนกตกปลาก็จะเกิดอาถรรพณ์ให้ไม่อาจทำสำเร็จได้เลย ดังมีเรื่องเล่าว่านายพรานบางคนได้คล้องรังเหล็กไหลออกไปล่าสัตว์ปรากฏ ว่าทุกครั้งที่ยกปืนขึ้นประทับเพื่อเตรียมยิงดีแล้วแต่เมื่อกดนก สับลงไป ปีนกลับไม่ลั่นดังแซะๆทุกครั้ง และจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่พกเอาองค์เหล็กไหลไปด้วย แต่ถ้าครั้งไหนที่ลืมไม่ได้เอาองค์เหล็กไหลไป ปรากฏว่าปีนก็จะลั่นเป็นปกติทุกครั้ง แสดงให้เห็นว่าเหล็กไหลไม่ต้องการให้ผู้ที่พกพาตัวเองไปนั้นทำผิดสืลข้อปาณาติบาตหรือการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นนั่นเอง
ในบรรดาอานุภาพของเหล็กไหลทั้งปวงนี้ ครูบาอาจารย์กล่าวว่าล้วนเป็นอานุภาพแห่งการห้ามปาณาติบาตทั้งสิ้น ท่านว่าเหล็กไหล เป็นของกายสิทธิ์ที่มีชีวิตและจิตวิญญาณจึงสามารถรับรู้กระแสความคิดของผู้ที่ดูแลและเป็นเจ้าของได้ตัวเหล็กไหลเองมีอำนาจในการห้ามปาณาติบาต ซึ่งเป็นอำนาจที่เขามีไว้เพื่อป้องกันตัวเขาเองอันเป็นผล ให้ผู้ที่สวมใล่ก็พลอยได้รับอานิสงส์ข้อนี้ไปด้วย ดังนั้นเจ้าของหรือ ผู้ที่พกพาเหล็กไหลจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปทำผิดเรื่องปาณาติบาต เพราะตัวเองยังคล้องเหล็กไหลก็เพื่อป้องกันตัวจากการเบียดเบียนของบุคคลผู้อื่น ตัวเองยังรักตัวกลัวตายแต่กลับจะไปทำร้ายผู้อื่นเสียเองได้อย่างไรกัน เหล็กไหลที่พกไปก็จะส่งกระแสห้ามไม่ให้บุคคลผู้นั้นผิด ศีลปาณาติบาต แต่หากบุคคลนั้นดื้อรั้นทั้งๆที่ตนเองมีธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลอยู่กับตัวเหล็กไหลที่มีอยู่ก็อาจตักเตือนด้วยการทำให้ปีนลั่น ใส่หน้าหรือทำให้เกิดอุบัติเหตุให้ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวเสียเลือดกันบ้าง เพื่อเป็นการเตือนสติว่าเราเบียดเบียนเขา เราทำให้เขาเจ็บ แต่เมื่อเราไม่โดนเองก็ย่อมไม่รู้ หากเราได้รับรู้ถึงความเจ็บ ความทรมานจากอาวุธ จากคมกระสุน คมหอกคมดาบ รู้ว่าการต้องเสียเสือดเป็นเช่นไร เราก็จะมีสติขึ้นมาและหยุดการทำปาณาติบาตเช่นนั้นอีก และแย่ที่สุดคือเหล็กไหลอาจเสด็จหนีจากเราไปในที่สุดเพราะเราไม่มีคุณสมบัติ เพียงพอที่จะมีเหล็กไหลไว้กับตัว
อำนาจความคุ้มครองจากเหล็กไหลถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอด แห่งเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ร่ำลือกันว่า เหล็กไหลนั้นมีอำนาจในการคุ้มครองเด็ดขาดที่สุด ผู้ใดก็ตามที่มีเหล็กไหลไว้ในครอบครอง และประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม คนผู้นั้นย่อมจะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขในชีวิตตราบนานเท่านาน และไม่มีวันตายโหงหรือประสบอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
เนื่องจากเหล็กไหลเป็นของเย็น เป็นของสงบ และเป็นของพระฤาษีที่ภาวนาตามป่าตามเขาดังนั้นเหล็กไหลจึงไม่ชอบเรื่องที่วุ่นวายทางโลกไม่นิยมเรื่องการเสพกาม นิยมพรหมจรรย์และไม่ชอบอย่างยิ่ง การรังแกเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กไหลที่มีเทพ พรหมปกปักรักษามีญาณของพระฤาษีดูแลอยู่ภายในด้วยแล้ว จะไม่ ยอมให้มีการเบียดเบียนผู้อื่นด้วยกาย วาจา ใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้รับ เหล็กไหลที่มีญาณของพระฤาษีหรือเทพพรหมที่ตั้งมั่นในศีลจึงต้อง หมั่นดูแลรักษาใจตนเองให้อยู่ในศีลสังวรให้ดี เพื่อให้มีคุณธรรมและมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรักษาเหล็กไหลไว้กับตัว มิเช่นนั้นเหล็กไหลๆจะเสด็จหายไปจากผู้นั้นและเหลือไว้เพียงความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยมีเหล็กไหลพกไว้กับตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น