วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

การเรียกเหล็กไหล

การเรียกเหล็กไหล

หลังจากที่เราได้ทราบถึงวิธีในการหาเหล็กไหลแล้วก็มา ถึงขั้นตอนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการเรียกเหล็กไหลให้ออกมาจากรังเหล็กไหล ซึ่งวิธีการเรียกเหล็กไหลโดยทั่วไปแล้วจะเริ่มต้น ด้วยการทำพิธีบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขารวมถึงเจ้าที่ผู้ดูแลเหล็กไหล โดยครูบาอาจารย์ผู้ประกอบพิธีเรียกเหล็กไหลจะทำการบวงสรวง ถวายต่อเจ้าป่าเจ้าเขาผู้ดูแลเหล็กไหลที่บริเวณหน้าปากถ้ำ เพื่อเป็นการเสี่ยงทายว่าเจ้าป่าเจ้าเขาที่ดูแลเหล็กไหลชิ้นนั้นอยู่จะยอมอนุญาตให้นำเหล็กไหลออกไปได้หรือไม่ ซึ่งจะสังเกตได้จาก ธูปเทียนที่จุดบูชาว่าจะติดไฟจนหมดหรือว่าดับกลางคัน หากว่าธูปเทียนเกิดดับกลางคันแสดงว่าเจ้าป่าเจ้าเขาไม่ยินยอมให้เหล็กไหลชิ้นนั้น จำต้องยุติพิธีกรรมการตัดเหล็กไหลในครั้งนั้นทันทีเพราะถ้ายังคงดื้อดึงที่จะกระทำพิธีต่อไปก็อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้


รังเหล็กไหล
แต่หากว่าธูปเทียนติดไฟจนหมดก็แสดงถึงว่าเจ้าป่าเจ้าเขาอนุญาตให้นำเหล็กไหลชิ้นนั้นออกไปได้ ครูบาอาจารย์ผู้ที่จะทำพิธีเรียกเหล็กไหลก็จะเริ่มพิธีการเรียกเหล็กไหลโดยจะเทน้ำผึ้งชนิดพิเศษที่ เรียกว่า "น้ำผึ้งพระจันทร์" (นํ้าผึ้งป่าที่ถูกปาดจากรังผึ้งในคืนวันเพ็ญ) ลงบนฝ่ามือจากนั้นจะยื่นฝ่ามือเข้าไปใกล้ๆรังเหล็กไหล แล้วกำหนดจิตถึงเหล็กไหลที่อยู่ภายในรัง หลังจากนั้นเพียงไม่นานเหล็กไหลก็จะยืด ตัวลงมาเสพน้ำผึ้งในฝ่ามือจนหมด ซึ่งหากต้องการที่จะตัดเหล็กไหล จะต้องกระทำในช่วงที่องค์เหล็กไหลกำลังยืดตัวอยู่นั้นเอง โดยต้อง ตัดใยเหล็กไหลให้ขาด เหล็กไหลที่ตัดได้จะนิ่มตัวอยู่บนฝ่ามือสักครู่ จากนั้นจึงแข็งตัวเอง
แต่โดยมากแล้วการเรียกเหล็กไหลนั้นเป็นเพียง การขอชมบารมีจากองค์เหล็กไหล ดังนั้นผู้ที่ทำการเรียกเหล็กไหล จึงไม่นิยมตัดเหล็กไหล แต่หากต้องการครอบครองเหล็กไหลที่จะทำการเรียกจะต้องมีการกำหนดจิตบอกต่อเจ้าป่าเจ้าเขาว่าต้องการ เหล็กไหลชนิดไหนสีสันวรรณะใด ต้องแจ้งให้ชัดเจน เพราะเมื่อเรียกเหล็กไหลออกมาแล้วเหล็กไหลที่ได้มาผิดไปจากชนิดที่ได้ขอไว้ก็ไม่สามารถนำเหล็กไหลชิ้นนั้นออกมานอกถาได้ จะต้องคืนให้แก่เจ้าป่าเจ้าเขาไป เพราะถือว่าผิดสัจจะที่ให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากฝืนเอาออกมาด้วยความโลภแล้วย่อมจะเกิดภัยพิบัติกับตัวเองได้

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การเรียกเหล็กไหลนั้นแท้ที่จริงคือ การขอชมบารมีของเหล็กไหลเท่านั้น ต่างจากการตัดเหล็กไหลซึ่ง เป็นการบังคับเอาเหล็กไหลด้วยการใช้วิชาอาคมและพลังจิตที่ เหนือกว่าเจ้าป่าเจ้าเขาที่รักษาเหล็กไหล การเรียกเหล็กไหลนั้นเป็น การอัญเชิญเหล็กไหลด้วยความอ่อนน้อมโดยอาศัยการกำหนดจิตเป็นสำคัญเพื่อขอชมบารมีของเหล็กไหลที่อยู่ภายในถ้ำจากเจ้าป่าเจ้าเขา ส่วนการเชิญเหล็กไหลให้เสด็จมาหาตนนั้น ท่านให้หาฝักขี้ผึ้งอย่างดีทีทำด้วยรังผึ้งขวางตะวันที่ร้างโดยธรรมชาติ และวางฝักขี้ผึ้งนั้นไว้บนพานครูที่ประกอบไปด้วยเทียนขาว 9 เล่ม ธูป 9 ดอก น้ำผึ้ง 1 ถ้วย ข้าวตอกดอกไม้ จากนั้นให้นำพานดังกล่าว ไปบูชาไว้บนหิ้งพระแล้วสวดพระคาถาอัญเชิญเหล็กไหลเป็นประจำ ประกอบกับการกำหนดจิตให้เป็นสมาธิแล้วแผ่เมตตาพร้อมทั้ง อุทิศล่วนกุศลให้กับเทพยดาที่รักษาเหล็กไหล หากจิตเราไปตรงกับ เทพยดาองค์ใดพร้อมด้วยกุศลอันเพาะบ่มดีแล้วก็จะทำให้เหล็กไหล เสด็จมาหาเราได้จริง ๆ ซึ่งก็เป็นการเรียกหรือการอัญเชิญเหล็กไหลอีกวิธีหนึ่ง

ในสมัยที่หลวงพ่อสดวัดปากน้ำท่านยังอยู่นั้นนับว่าท่านเป็น ผู้ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องธาตุกายสิทธิ์มากที่สุดในยุคนั้น ท่านมัก เจริญฌานเต็มกำลังแล้วอธิษฐานเรียกธาตุกายสิทธิ์ชนิดต่างๆ มารวมกัน กล่าวกันว่าในสมัยนั้นมีธาตุกายสิทธิ์หลายชนิดมาหา ท่านในลักษณะที่เป็นดวงไฟลอยลงมาขณะที่ท่านกำลังบำเพ็ญภาวนา มีทั้งพระธาตุ มีทั้งดวงแก้ว มีทั้งคด แต่จะมีเหล็กไหลด้วยหรือไม่นั้น มิอาจทราบได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถยืนยันได้ว่าการบำเพ็ญภาวนา นั้นสามารถทำให้ธาตุกายสิทธิเสด็จมาหาเราได้จริง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ความศรัทธาและความเชื่อมั่นของผู้ที่ภาวนาด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น