เหล็กไหลเจ้าป่า |
เหล็กไหลเจ้าป่า เหล็กไหลเจ้าป่าเป็นเหล็กไหลที่มีอิทธิฤทธิ์ใกล้เคียงกับ เหล็กไหลโกฏิปี โดยทั่วไปจะพบเหล็กไหลเจ้าป่าในป่าลึกตามถ้ำที่มี ธารน้ำลอดตลอดสาย และเป็นถ้ำที่มีความเย็นมาก ๆ เหล็กไหล เจ้าป่าจะฝังตัวอยู่ในหินตามถ้ำ มีลักษณะเป็นดอกบัวตูมที่มีรูปพรรณ สัณฐาน'ทั่ว1ไปเป็นสีดำสนิทเหมือนกับนิลหรือยางตังเมที่ข้นจัด
ในการตัดเหล็กไหลเจ้าป่าหากเป็นเหล็กไหลเจ้าป่าชั้นยอดจะมี ลักษณะเฉพาะของการไหลตัวที่คล้ายกับเหล็กไหลโกฏิปี คือมีการยืดตัว คล้ายใยบัวเช่นกัน แต่หากเป็นเหล็กไหลเจ้าป่าชั้นรองลงมา เมื่อ เหล็กไหลเจ้าป่ายืดตัวการยืดตัวของเหล็กไหลเจ้าป่าจะมีลักษณะคล้าย ตังเมข้นๆไหลตัวออกมาจากซอกหิน
หลังจากที่ใช้เทียนอาคมลนแล้วปล่อยให้เหล็กไหลเจ้าป่า หยดตัวลงมาในบาตรบรรจุนํ้าผึ้งที่เตรียมไว้สำหรับรองรับก็จะได้ เหล็กไหลที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ สีดำสนิท ซึ่งนิยมเรียกเหล็กไหล ชนิดนี้ว่า "พญาสมิงเหล็ก" และเหล็กไหลชนิดนี้มักมีญาณของเจ้าปา เจ้าเขาดูแลรักษาอยู่จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า"เหล็กไหลเจ้าป่า"
ในการตัดเหล็กไหลเจ้าป่าต้องระวังอย่าให้องค์เหล็กไหลตกลงบนพื้นดินอย่างเด็ดขาด เพราะเหล็กไหลจะหายไปทันทีเนื่องจากถูกพวกกายทิพย์นิกายต่างๆ เช่น คนธรรพ์ ยักษ์พญานาคแย่งชิงเอา เหล็กไหลไปเหล็กไหลเจ้าป่ามีอิทธิฤทธิ์เทียบเท่าผู้ที่มีอภิญญา 5 เช่นกัน เข้าข่ายของกายสิทธิ์เเต่พลังอำนาจจะไม่สูงส่งเท่าเหล็กไหลโกฏิปีกล่าวคือ เหล็กไหลโกฏิปีจะมีความเข้มข้นสูงกว่า แต่ก็สามารถเทียบเคียงกันได้ เพราะในบรรดาสายพันธุ์เหล็กไหลนั้น เหล็กไหลเจ้าป่านับว่าเป็น สายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเหล็กไหลโกฏิปีมากที่สุด ในบรรดาสายพันธุ์ เหล็กไหลจึงจัดเหล็กไหลโกฏิปีเป็นอันดับหนึ่ง และรองลงมาก็คือ เหล็กไหลเจ้าป่านั่นเอง
อิทธิฤทธิ์ของเหล็กไหลเจ้าป่าจึงคล้ายคลึงกับเหล็กไหลโกฏิปี คือ สามารถกินดินปืน กินฟอสฟอรัส ระงับพิษร้อนจากไฟและน้ำกรด ทั้งปวงได้ ทำให้ใม้ขีดจุดไฟไม่ติดทั้ง ๆ ที่หัวไม้ขีดยังแห้ง ๆ ไม่ได้ชื้นแต่อย่างใด อีกทั้งตัวของเหล็กไหลเจ้าป่าเองยังสามารถล่องหนหายตัว จากไปได้ จึงนับได้ว่าเหล็กไหลเจ้าป่าเป็นอีกหนึ่งของศักดื้สิทธิ์ตาม ธรรมชาติที่เป็นรองแค่เหล็กไหลโกฏิปีเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น